Month: เมษายน 2023

สายเฮลท์ตี้ต้องรู้ ดื่มน้ำเวลาไหนได้ประโยชน์มากที่สุด

สายเฮลท์ตี้ต้องรู้ ดื่มน้ำเวลาไหนได้ประโยชน์มากที่สุด

น้ำคือสิ่งที่จำเป็นต่อสุขภาพ นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนรู้อยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะชอบดื่มน้ำธรรมดา หรือชาน้ำเขียวอุ่นๆ ที่สำคัญก็คือคุณจะต้องแน่ใจว่า ในแต่ละวันนั้นคุณดื่มน้ำเพียงพอ สายเฮลตี้ทั้งหลายต่างก็ให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำ เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเราต้องการน้ำ น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบบการย่อยอาหาร น้ำเป็นองค์ประกอบหลักในเลือด และที่สำคัญน้ำจะช่วยให้สมองของคุณทำงานได้อย่างปกติ

ดื่มน้ำเวลาไหนร่างกายจะได้ประโยชน์มากที่สุด 

งานวิจัยในด้านการแพทย์ แนะนำให้สำหรับเพศชายนั้นควรจะได้รับของเหลวรวมทั้งน้ำ อย่างน้อย 13 แก้วต่อวัน ส่วนเพศหญิง 8 แก้วขึ้นไปต่อวัน จึงจะเหมาะสมและเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ตัวเลขนี้ก็อาจจะยืดหยุ่นขึ้นลงได้ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในแต่ละวันของคุณด้วย เช่น หากคุณเป็นหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร คุณก็ต้องเพิ่มปริมาณน้ำที่ควรจะได้รับในแต่ละวันให้มากขึ้น และสำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งคุณควรจะดื่มน้ำเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในแต่ละวันนั้น เป็นอย่างไรมาดูกันเลย

1. ช่วงเวลาหลังตื่นนอนใหม่ ๆ 

เนื่องจากในช่วงที่คุณนอนหลับ ร่างกายไม่ได้รับน้ำเป็นเวลานาน ดังนั้นการที่คุณดื่มน้ำอุ่นๆ สัก 2 ถ้วยในตอนนี้ จะทำให้ร่างกายของคุณสดชื่นขึ้นในทันที

2. ก่อนมื้ออาหาร

การดื่มน้ำสัก 1 แก้วก่อนมื้ออาหารจ ะช่วยลดความหิวลงได้ น้ำที่คุณดื่มเข้าไปจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มได้มากขึ้น ทำให้คุณลดการบริโภคที่เกินกว่าจำเป็นได้อีกด้วย แต่เทคนิคการดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร ก็คือ คุณควรจะดื่มน้ำอุ่นๆ เพราะจะช่วยให้ระบบการย่อยดีขึ้น

3. ดื่มน้ำหลังมื้ออาหาร

การดื่มน้ำหลังมื้ออาหารจะช่วยส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหาร น้ำจะช่วยล้างช่องปากและหลอดอาหาร รวมทั้งช่วยให้อาหารเคลื่อนไปในระบบการย่อยผ่านกระเพาะและลำไส้ได้ดี โดยเฉพาะหากคุณรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง การจับตัวของไฟเบอร์กับน้ำ จะทำให้ระบบการขับถ่ายของคุณเป็นไปโดยปกติมากยิ่งขึ้น

4. ดื่มน้ำสัก 2 แก้วในช่วงบ่ายแก่ ๆ

เป็นธรรมดาอยู่เองที่ในช่วงเวลาบ่าย ผู้คนมักจะรู้สึกง่วงงุนขาดความกระปรี้กระเปร่า สาเหตุที่แท้จริงนั้นมาจากภาวะขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอากาศร้อนอบอ้าว ซึ่งคนบางคนเลือกที่จะดื่มกาแฟ ข้อดี ก็คือ กาแฟก็ถือว่าเป็นของเหลวเหมือนกัน แต่หากคุณลองแปลี่ยนมาดื่มน้ำอุ่นๆซัก 2 แก้วแทน  คุณจะรู้สึกว่า คุณได้รับความสดชื่นขึ้นอย่างทันทีทันใด แถมยังช่วยลดการบริโภคคาเฟอีนอีกด้วย

การปรับนิสัยการดื่มน้ำเหล่านี้ อาจจะเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเราจะเคยชินกับนิสัยเดิม ๆ แต่เชื่อว่าหากคุณมุ่งมั่น ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไป ลองเก็บขวดน้ำไว้ใกล้ ๆ ตัว บนโต๊ะทำงาน ข้างเตียงนอน ก็จะทำให้ง่ายต่อการที่คุณจะหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม สุขภาพดีนั้นเริ่มต้นไม่ยาก เพียงแค่ดื่มน้ำให้ถูกต้องและเพียงพอ แล้วคุณก็จะเป็นคนที่สตรองและเฮลตี้ในที่สุด

อาหารที่มีฤทธิ์ด่างช่วยเปลี่ยนสมดุล pH ของร่างกาย ได้จริงหรือไม่

อาหารที่มีฤทธิ์ด่างช่วยเปลี่ยนสมดุล pH ของร่างกาย ได้จริงหรือไม่

ในช่วงนี้มีเรื่องราวมากมายที่กล่าวถึงประโยชน์ของอาหารด่างหรืออาหารที่มีค่า pH ค่าความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ในช่วงที่มากกว่า 7 ซึ่งในทางโภชนศาสตร์จะเรียกว่า อาหารอัลคาไลน์ ที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับน้ำดื่มที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ที่นำเสนอมากมายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพได้ซื้อหา ดังนั้นเราจะเปิดมุมมองในเชิงวิทยาศาสตร์ และนำเสนอข้อเท็จจริงในอีกแง่มุม ถึงผลลัพธ์และคุณประโยชน์ในเชิงของผลกระทบที่มีต่อร่างกายของผู้ที่รับประทานอาหารด่าง

อาหารที่มีฤทธิ์ด่างช่วยเปลี่ยนสมดุล pH ของร่างกาย ได้จริงหรือไม่

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับอาหารด่าง ว่าเป็นอาหารประเภทอะไร ในทางวิทยาศาสตร์เมื่อเราบริโภคอาหารเข้าไป ร่างกายก็จะนำอาหารไปใช้ โดยผ่านกระบวนการเผาผลาญ เกิดปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงอาหารเหล่านี้ไปเป็นพลังงาน แล้วจะมีผลพลอยได้เป็นของเสีย ซึ่งจะถูกขับถ่ายออกทางระบบปัสสาวะ โดยของเสียที่เกิดขึ้นจากอาหารประเภทต่าง ๆ ก็จะส่งผลทำให้ค่า pH ในปัสสาวะของเราแตกต่างกัน โดยอาหารที่เรียกว่าอาหารด่างนั้น หลังจากเกิดปฏิกิริยาการเผาผลาญของเสียที่ได้จากอาหารประเภทนี้ จะทำให้ค่า pH ของปัสสาวะของเรา มีค่าเป็นด่างนั่นเอง 

ตัวอย่างอาหารให้ของเสียที่ทำให้ปัสสาวะของเราเป็นด่าง ได้แก่ อาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการทั้งหลาย โดยเฉพาะผักสด ผลไม้ หรือน้ำผลไม้สกัดเย็น มันฝรั่ง ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผลิตภัณฑ์นมและโยเกิร์ต สมุนไพรต่าง ๆ น้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโด เมล็ดเจีย เมล็ดเฟล็กซ์

ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าการเผาผลาญอาหารเหล่านี้จะส่งผลกับค่า pH ในปัสสาวะ แต่ในความเป็นจริง ในเรื่องของการรักษาสมดุลของค่า pH ซึ่งจะส่งผลกับสุขภาพโดยตรงนั้น จะไม่ใช่ค่า pH ในน้ำปัสสาวะ แต่เป็นค่า pH ในกระแสเลือด ซึ่งโดยปกติเลือดของคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์จะอยู่ในช่วงค่า pH ประมาณ 7.36 ถึง 7.44 หรือ เรียกได้ว่าเลือดจะมีลักษณะที่เป็นด่างเล็กน้อยอยู่เสมอ ในกรณีที่ค่าสมดุล pH ในเลือดของคุณไม่เหมาะสม คือมีลักษณะเป็นกรด จะเสี่ยงกับการเกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษา อีกทั้งยังเป็นบ่อเกิดของโรคบางอย่างอย่าง เช่น โรคเบาหวาน 

แต่ร่างกายของคนเราก็มีกลไกในการที่จะคงรักษาระดับค่า pH ของกระแสเลือดให้คงที่เป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้นหากเราหยิบยกประเด็นที่ว่า อาหารด่างช่วยรักษาสมดุลของค่า pH ของร่างกาย และทำให้สุขภาพดีนั้น จึงถือว่าไม่ตรงกับกลไกโดยปกติของร่างกายนัก

เมื่อพิจารณาถึงประเภทชนิดของอาหารด่างตามที่กล่าวข้างต้น เราจะพบว่าอาหารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่สำหรับประเด็นการรักษาสมดุลค่า pH ของร่างกาย แต่ดีกับร่างกายในแง่เป็นอาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป มีกากใยสูง ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องไปเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อน้ำด่างหรือรับประทานแต่อาหารด่างเท่านั้น การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ปรุงสุก สดใหม่ จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ต่อความมีสุขภาพที่ดีได้มากกว่านั่นเอง