การทำประกันเป็นสิ่งที่ช่วยรองรับความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันในอนาคต ทำให้ผู้ทำประกันสามารถใช้สิทธิ์ต่างๆ ภายใต้การคุ้มครองของกรมธรรม์ ในกรณีของการทำประกันสุขภาพก็เช่นเดียวกัน จำเป็นที่ผู้สนใจต้องศึกษาให้เข้าใจเงื่อนไขและรายละเอียดอย่างถ่องแท้ ก่อนการจรดปากกาเซ็นต์สัญญากรมธรรม์ เพื่อการรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ซึ่งจะมีอะไรบ้างที่ไม่ควรพลาด เรามาดูพร้อมกันเลย
โรคหรือภาวะความเจ็บป่วยที่ได้รับความคุ้มครองมีอะไรบ้าง
ประกันสุขภาพจะไม่ครอบคลุมการเบิกค่ายา ค่ารักษาพยาบาลทางการแพทย์ ในโรคที่ผู้ทำประกันเป็นอยู่ก่อนแล้ว ดังที่เห็นว่าตัวแทนประกันจะต้องขอให้ลูกค้าตรวจสุขภาพก่อน ซึ่งแม้จะมีบางบริษัทที่โฆษณาว่าไม่ต้องตรวจร่างกาย แต่ก็จำเป็นต้องสอบถามเงื่อนไขในการรักษาพยาบาลในอนาคตไว้ด้วย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดอันทำให้เสียเบี้ยประกันไปอย่างเปล่าประโยชน์
การทำประกันสุขภาพให้สิทธิ์ในการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายเมื่อใด
ภายหลังการทำประกันสุขภาพแล้ว ไม่ใช่ว่าผู้เป็นเจ้าของกรมธรรม์จะสามารถขอเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ทันที จำเป็นต้องเว้นระยะเวลาราว 30 วัน หลังการยื่นเอกสารหลักฐานอย่างครบถ้วนจึงจะมีสิทธิ์เบิกได้ ทั้งนี้ยังมีข้อยกเว้นในกรณีที่เป็นกลุ่มโรคเรื้อรังหรือโรคร้ายแรงบางชนิด เช่น โรคเนื้องอก โรคมะเร็ง โรคนิ่ว ฯลฯ จำเป็นต้องรอคอยเวลานานกว่านั้น อาจเป็นระยะเวลา 3 – 4 เดือนเลยทีเดียว
ประกันสุขภาพปฏิเสธการจ่ายเงินลูกค้าได้ไหม
คำถามนี้มักพบกับผู้ที่ทำประกันสุขภาพไปแล้วไม่สามารถเคลมเงินประกันได้ เราจึงควรทราบว่าทางบริษัทสามารถปฏิเสธการจ่ายได้ หากเข้าข่ายกรณีต่อไปนี้
- โรคร้ายที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่นั้น ถูกตรวจสอบพบว่าอยู่ในประวัติการรักษาของโรงพยาบาลมาก่อนการทำประกันสุขภาพ
- เป็นการรักษาเกี่ยวกับความสวยงาม เช่น รักษาสิว ฝ้า การทำเลเซอร์ลบรอยแตกลาย หรือกำจัดขนตามหน้าอก แขนขา รวมถึงการทำโบท็อกซ์ ศัลยกรรมเล็ก-ใหญ่เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความงาม เป็นต้น
- การนวด การฝังเข็มหรือการรักษาอื่นๆ ด้วยวิถีทางแพทย์แผนโบราณหรือแพทย์ทางเลือก
- การคลอดบุตร หรือการผสมเทียม การทำเด็กหลอดแก้ว กรณีผู้มีบุตรยาก
หลายท่านอาจเคยได้ยินกันมาบ้างว่ามีตัวแทนบริษัทบางรายแนะนำลูกค้าให้ปิดบังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคที่เป็น โดยอ้างว่าสามารถมีวิธีการป้องกันความลับนี้ไว้ได้ (หากเกินสองปีจะพ้นระยะที่บริษัทจะยกเลิกกรมธรรม์) ซึ่งแท้ที่จริงแล้วบุคคลเหล่านี้เป็นตัวแทนที่เห็นแก่ตัวจำนวนน้อยที่ทำเช่นนั้น เพื่อต้องการค่าคอมมิชชั่นจากการขาย ซึ่งหากทางบริษัทมีการตรวจสอบภายหลังว่ามีการปิดบังข้อมูล ก็มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญากรมธรรม์กับลูกค้าได้ตามกฎหมาย
จะเห็นได้ว่า การทำประกันสุขภาพต้องใส่ใจในเงื่อนไขและสิทธิ์ประโยชน์ต่างๆ อย่างรอบด้าน ก่อนการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพทุกครั้ง ควรสอบถามเพื่อความมั่นใจและศึกษาข้อมูลในเอกสารกรมธรรม์ให้ละเอียดว่าตรงกับที่ตัวแทนประกันแจ้งไว้หรือไม่ หากมีข้อสงสัยใดๆ แนะนำให้สอบถามกับทางบริษัทโดยตรงจะดีที่สุด