Month: พฤศจิกายน 2021

ดื่มน้ำอย่างไรให้ผิวสวย แถมสุขภาพดีอีกด้วย

เพราะร่างกายคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการจึงมีส่วนทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานอย่างสอดคล้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากการดื่มน้ำในปริมาณเหมาะสมแล้ว รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำตามช่วงเวลานอกจากดีต่อสุขภาพแล้วยังทำให้ผิวสวยอีกด้วย

ดื่มตามความต้องการของร่างกาย

เพราะน้ำหนักตัวคนเราไม่เท่ากัน ความต้องการน้ำจึงแตกต่างกันตามไปด้วย สูตรคำนวณปริมาณน้ำที่ต้องการต่อวัน คำนวณได้ง่าย ๆ คือ น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ 2 x 2.2 x 30 ผลลัพธ์ที่ได้คือปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการแต่ละวัน นอกจากนี้ ใครต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งนาน ๆ หรือออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำมากกว่าปริมาณที่คำนวณเพราะร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส ไม่แห้งกร้าน และทำให้ระบบต่าง ๆ ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดื่มน้ำครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ

แม้การดื่มน้ำจะมีข้อดีทั้งเรื่องความงามและสุขภาพ แต่ถึงอย่างนั้นไม่ควรดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ เช่น ดื่มน้ำครั้งละ 800 มิลลิลิตร หรือดื่มน้ำครั้งละ 1 ลิตร เพราะอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษหรือภาวะที่ปริมาณโซเดียมในเลือดต่ำกว่าปกติ ผลกระทบคือวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดและอาเจียน ดังนั้น ควรทยอยดื่มน้ำครั้งละน้อย ๆ แต่ดื่มบ่อย ๆ รับรองสุขภาพดีแถมผิวใสอีกด้วย

ดื่มน้ำตามช่วงเวลา

การดื่มน้ำตามช่วงเวลาคือวิธียอดนิยมสำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจว่าควรดื่มน้ำเวลาใดถึงดีที่สุด นอกจากนี้ ยังช่วยลดอาการหลงลืม และเมื่อร่างกายได้รับน้ำอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ผลลัพธ์ที่ได้คือสุขภาพกายและสุขภาพใจดีขึ้น โดยช่วงเวลาเหมาะสมต่อการดื่มน้ำ ดังนี้

  • ดื่มน้ำหลังตื่นนอน เพราะตลอดเวลา 6-8 ชั่วโมงที่นอนหลับ เป็นช่วงที่ร่างกายขาดน้ำ การเติมน้ำแก่ร่างกายทันทีหลังตื่นนอนนอกจากช่วยให้ร่างกายสดชื่นแล้วยังกระตุ้นระบบเผาผลาญ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  • ดื่มน้ำก่อนและหลังมื้ออาหาร โดยการดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารจะช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้ทานอาหารปริมาณน้อยลง ส่วนการดื่มน้ำหลังอาหารจะช่วยเรื่องการดูดซึมและลดอาการท้องผูก
  • ดื่มน้ำก่อนนอน เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะไม่ได้รับน้ำติดต่อกันหลายชั่วโมง การดื่มน้ำเวลานี้จึงช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำได้ดี

เมื่อน้ำมีประโยชน์ต่อสุขภาพและยังเป็นตัวช่วยเพิ่มความงาม ไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น บำรุงผิวสวยจากภายใน แถมยังเป็นตัวช่วยลดน้ำหนัก เพราะฉะนั้นอย่าลืมหันมาใส่ใจสุขภาพและความงามด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ นอกจากนี้สำหรับสาวกคอบอล รู้ว่าบอลเตะดึกก็ควรนอนก่อนแล้วตื่นมาเช็คผลบอลเมื่อคืนแทนการฝืนนอนดึก ซึ่งทำให้หน้าตาเหี่ยวโทรมได้ง่าย วิธีง่าย ๆ ที่ทำให้ไม่ลืมดื่มน้ำ คือ ซื้อขวดน้ำปริมาณ 2-3 ลิตร จากนั้นรินน้ำเตรียมไว้ทุกเช้า และทยอยดื่มตามช่วงเวลาจนกว่าจะหมด เชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้การดื่มน้ำเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

กินอาหารตรงเวลาสำคัญต่อสุขภาพพอๆ กับสารอาหารครบถ้วน

กินอาหารตรงเวลาสำคัญต่อสุขภาพพอๆ กับสารอาหารครบถ้วน

พฤติกรรมการกินเป็นสิ่งสำคัญ คนรักสุขภาพมักจะใส่ใจเรื่องอาหารที่ดีต่อร่างกาย สารอาหารครบถ้วน และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่มักลืมสังเกตไปว่าตนเองกินข้าวไม่ตรงเวลา การใช้ชีวิตตามใจกินอาหารตามความสะดวกหรือกินด้วยความรีบเร่งไม่เป็นผลดี สุขภาพที่ดีมาจากวินัยการกินซึ่งมีความสำคัญพอ ๆ กับสารอาหารที่รับประทานเข้าสู่ร่างกาย เหตุใดการกินตรงเวลาจึงสำคัญ เรามีคำตอบให้ดังนี้

1.สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการมีระเบียบวินัย เลือกสารอาหารที่เหมาะสมมีครบทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และผักผลไม้ กินให้ตรงเวลาและนอนหลับให้เพียงพอ จะละเลยอย่างหนึ่งอย่างใดไปไม่ได้ ปรับนิสัยให้เคยชินกับอาหารวันละสามมื้อหรือปรับให้เหมาะสม เช่น เมื่ออายุมากขึ้นกินแต่ละมื้อน้อยลงจะปรับเป็นมื้อย่อยวันละ 5-6 มื้อก็ได้ ที่สำคัญคือรักษาเวลาให้ดี ป้องกันไม่ให้เกิดแผลในกระเพาะหรือเป็นโรคกระเพาะ โดยปกติร่างกายคนเราใช้เวลาย่อยอาหารประมาณ 3-4 ชั่วโมง ระยะห่างระหว่างมื้อจึงไม่ควรเกิน 4 ชั่วโมง ถ้าเว้นระยะนานหรือกินข้าวไม่ตรงเวลาจะเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น หลีกเลี่ยงโรคกระเพาะได้ด้วยการเสริมอาหารว่างอย่างน้อย 2 มื้อระหว่างมื้อเช้า กลางวัน และเย็น

2.มื้ออาหารเป็นตัวกำหนดการเผาผลาญของร่างกาย ตื่นนอนตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่ระบบเผาผลาญทำงานมีประสิทธิภาพที่สุด กินอาหารเช้าจะย่อยเร็วและส่งผลกระทบต่อมื้ออื่นตลอดวัน ส่วนอาหารมื้อเย็นควรรับประทานก่อนเวลา 20.00 น. เพื่อให้อาหารย่อยง่ายและดีต่อการควบคุมน้ำหนัก ถ้ากินดึกเกินไปทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากเป็นเท่าตัว มื้อเย็นไม่ควรมีโปรตีนมากเพราะต้องใช้เวลาย่อยนานเกินไป การรับประทานอาหารตรงเวลายังเป็นผลดีต่อตับซึ่งเป็นอวัยวะทำหน้าที่ล้างพิษในร่างกาย ถ้ากินอาหารใกล้กับเวลานอน จะทำให้ขับสารพิษออกมาได้ยากขึ้น

3.ช่วงเวลาดีที่สุดสำหรับอาหารแต่ละมื้อ มีดังนี้

  • มื้อเช้า ควรรับประทานอาหารภายใน 2 ชั่วโมงหลังตื่นนอน เพื่อกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญให้เกิดเร็วขึ้น ยิ่งกินมื้อเช้าเร็วเท่าไร การเผาผลาญยิ่งมีประสิทธิภาพ ทำให้สุขภาพดีขึ้น
  • มื้อกลางวัน ระบบย่อยอาหารทำงานดีที่สุดระหว่างเวลา 12.00 น. ถึง 14.00 น. ทำให้ร่างกายย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้มากที่สุด มื้อนี้ควรจะเบากว่าอาหารเช้าและอาหารเย็น
  • มื้อเย็น เวลาที่เหมาะสมคือระหว่าง 17.00-18.00 น. หรือช้าที่สุดไม่เกิน 20.00 น. อาหารกลางวันและอาหารเย็นห่างกันไม่เกิน 4 ชั่วโมง อาจเลือกรับประทานของว่างหรือผลไม้เพื่อไม่ให้ท้องว่างนานเกินไป งดกินอาหารก่อนนอน 2 ชั่วโมง เพื่อให้ย่อยอาหารได้หมดและนอนหลับสนิทตลอดคืน

ประโยชน์ของการกินตรงเวลาทุกวันจะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้ผล ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดี และสุขภาพโดยรวมดีขึ้น ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อสู้กับโรคได้ ความเหมาะสมของแต่ละคนแตกต่างกัน ควรปรับสมดุลและจัดตารางมื้ออาหารให้เหมาะกับตัวคุณที่สุด